วันนี้ (3 เม.ย.) มีอีเมล์ลึกลับฉบับหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏชื่อผู้ส่งจัดส่งให้กับผู้สื่อข่าวหลายคน โดยมีเนื้อหาดังนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์กรณี กรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ กสท (CAT) ได้ทำการตรวจสอบพบว่า นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท เซ็นสัญญาเช่าโครงข่ายพร้อมอุปกรณ์เพื่อให้บริการ FTTX กว่า 10 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งผลการสอบสวนเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าสัญญาที่เซ็นไปให้ถือเป็นโมฆียะ เนื่องจากพบความไม่ถูกต้องอย่างน้อย 5 เรื่อง คือ
1. ไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการโครงการ 2. ไม่มีการเขียนข้อกำหนดหรือทีโออาร์แต่อย่างใด แต่เมื่อเรื่องกำลังจะแดงขึ้นก็มีการเขียน ทีโออาร์ ขึ้นมาภายหลัง 3.ไม่มีการกำหนดความต้องการที่เฉพาะเจาะจง เลือกแต่จะบอกว่าใช้เทคโนโลยีเคเบิลใยแก้ว หรือ FTTX เท่านั้น 4. ไม่มีตัวแทนจากผู้บริหารฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องรับรู้หรือร่วมเป็นตัวแทนพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย กม. ฝ่ายการเงิน และ ฝ่ายวิศวกร ฯ 5.บางสัญญาเข้าข่ายต้องผ่านพ.ร.บ.ร่วมการงานปี 2535 แต่กลับไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด และที่สำคัญไม่ได้มีการประกวดราคาคัดเลือกผู้เข้ามาดำเนินการ
‘เรียกได้ว่าในส่วนของ กสท มีคนรู้เห็นน้อยมาก แค่ นายจิรายุทธ กจญ. ที่เป็นคนเซ็นสัญญา กับ นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รอง กจญ. ที่เซ็นในฐานะพยานเท่านั้น ทำให้กรรมการตรวจสอบเห็นว่า สัญญาทั้งหมด ไม่มีการรับรู้ใน กสท เลย เท่ากับต้องโมฆียะไปตามระเบียบ’
และ ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. มีหนังสือแจ้งไปยัง กสท ขอทราบรายละเอียดตามประเด็นข้อสังเกตและข้อซักถามเพิ่มเติม ตามหนังสือที่ ตผ ๐๐๑๔/๐๐๖๙ ลงวันที่ 9 มกราคม 2555 ขณะนี้ ทาง กสท ก็ยังไม่สามารถจัดทำหนังสือบันทึกตอบกลับไปยัง สตง. ได้แต่ประการใด เพราะว่าไม่สามารถจัดหาหลักฐานเอกสารต่างๆ ตามกระบวนการที่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนส่งมอบให้ได้
อนึ่ง ได้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า ได้มีการจัดทำเอกสารเท็จขึ้นเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ในส่วนของ สำนักงานบริการลูกค้า กสท เขตตะวันออก มีโครงการเช่าใช้ FTTX อยู่ในพื้นที่จำนวน 3 สัญญา มีมูลค่าตามสัญญาทั้งหมดรวมเป็นเงินทั้งสิ้นมากกว่า 1,900 ล้านบาท ดังนี้
1. สัญญาใช้บริการโครงข่าย FTTH เมืองพัทยา (ทำสัญญากับ กิจการร่วมค้า คอนซอเตียม เอ็มเอสที เมื่อ 7 ธ.ค. 53 ) ค่าเช่า 36 เดือน เดือนละ 18,998,444.44 บาท( รวม VAT ) เป็นเงิน ปีละ 227,981,333.28 บาท รวม 3 ปีแรก เป็นเงินทั้งสิ้น 683,943,999.84 บาท
2.สัญญาใช้บริการโครงข่าย FTTF นิคมฯ เหมราช ฯ และ อีสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง (ทำสัญญากับ บริษัท เอ.แอล.ที. อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อ 5 ม.ค. 54 ) ค่าเช่า 36 เดือน เดือนละ 14,445,000.00 บาท ( รวม VAT ) เป็นเงิน ปีละ 173,340,000.00 บาท รวม 3 ปีแรก เป็นเงินทั้งสิ้น 520,020,000.00 บาท
3.สัญญาเช่าใช้โครงข่าย FTTF นิคมฯ อมตะซิตี้ (ทำสัญญากับ บริษัท อาร์ ที เอส (2003) จำกัด เมื่อ 16 ก.ย. 54 ) ค่าเช่า 36 เดือน เดือนละ 18,404,000.00 บาท ( รวม VAT ) เป็นเงิน ปีละ 220,848,000.00 บาท รวม 3 ปีแรก เป็นเงินทั้งสิ้น 662,544,000.00 บาท
โดยที่โครงการเช่าใช้ FTTX ดังกล่าวข้างต้น 3 สัญญา มีนายพัฒนา ณ สงขลา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานบริการลูกค้า กสท เขตตะวันออก เมืองพัทยา เป็นผู้รับผิดชอบบริหารสัญญาดังกล่าว ได้กระทำการติดต่อประสานงานกับบริษัทเอกชน และมีพฤติการณ์ที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน การกระทำดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคงขององค์กร กสท ทำให้ กสท เสียหายอย่างร้ายแรง ที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินจากการที่ นายพัฒนา ณ สงขลา ทำการสมคบกับบริษัทเอกชน ทำการก่อสร้างโครงข่าย FTTX มาให้ กสท เช่าใช้ โดยไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนที่ทางราชการหรือ กสท กำหนดไว้ ( ตามประเด็นข้อซักถามของ สตง. ลงวันที่ 9 มกราคม 2555 )
ดังนั้น พนักงาน กสท โทรคมนาคม เขตตะวันออก จึงมีความจำเป็นต้องทำการประกาศแสดงเจตนารมณ์ ขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2555 เวลา 12.39 น. ที่ สำนักงานบริการลูกค้า กสท เขตตะวันออก เมืองพัทยา ขับไล่ นายพัฒนา ณ สงขลา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน กสท เขตตะวันออก ให้ออกไปจากพื้นที่ เขตตะวันออก ดังกล่าว
ด้านนายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่เห็นอีเมล์ และข้อความดังกล่าว เบื้องต้นต้องตรวจสอบประเด็นต่างๆ ทั้งกฎระเบียบ ขั้นตอน รวมถึงในเชิงธุรกิจให้รอบคอบ ขอเวลาตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง โดยจะชี้แจงความคืบหน้าภายในเย็นวันนี้ ส่วนกรณีการขับไล่ นายพัฒนา ณ สงขลา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน กสท เขตตะวันออกนั้น ขณะนี้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและต้องตรวจสอบว่ามีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งต้องดำเนินการในเชิงนโยบาย
phetchannews 