ไม่ได้เหนบแนมคนรุ่นใหม่หัวใจไอทีที่วันๆ เอาแต่คลิกๆ กดๆ และปาดแผ่ดๆ หน้าจอมือถือและแท็บเล็ตแต่อย่างใด เพียงแต่นำเรื่องโรคภัยซึ่งเสี่ยงกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำพฤติกรรมซ้ำเดิมตลอดทั้งวันมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น!
โรคนิ้วล็อก หมายถึง อาการที่งอข้อนิ้วมือแล้วเหยียดขึ้นเองไม่ได้เหมือนถูกล็อกเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทั่วไปที่ต้องใช้มือจับสิ่งของ หรืออุปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องบ่อยๆ โรคนี้ไม่มีอันตรายใดๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกเจ็บปวด และใช้มือได้ไม่ถนัด เป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ การอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมือมักเกิดจากแรงกดหรือเสียดสีของเส้นเอ็นซ้ำซาก หรือใช้งานฝ่ามือมากเกินไป เช่น การใช้มือหยิบจับอุปกรณ์ในการทำงานบ้าน ทำสวน ขุดดิน เล่นกีฬา เล่นดนตรี เป็นต้น โรคนี้จึงพบบ่อยในกลุ่มแม่บ้าน เลขานุการที่พิมพ์ดีดบ่อยๆ ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา (เช่น กอล์ฟ เทนนิส) หรือเล่นดนตรี (เช่น ไวโอลิน)
แต่ปัจจุบันอุปกรณ์สื่อสารก็กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนิ้วล็อก เช่น การแชทผ่านมือถือ การพิมพ์งาน ใช้เม้าส์ และการทำมือในท่าเดิมๆ เพื่อเลื่อนเปลี่ยนหน้าจอแท็บเล็ตและมือถือแบบจอสัมผัส”
การดูแลตนเอง
-ไม่ขยับนิ้วหรือดีดนิ้วที่เป็นนิ้วล็อกเล่น อาจทำให้เส้นเอ็นอักเสบมากขึ้น
-ถ้ามีอาการข้อฝืด กำไม่ถนัดตอนเช้า ควรแช่น้ำอุ่นจัดๆ และบริหารโดยการขยับมือกำแบเบาๆ ในน้ำจะทำให้นิ้วมือเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น
-เมื่อต้องกำหรือจับสิ่งของแน่นๆ เช่น ไม้กอล์ฟ ตะหลิวผัดกับข้าว ควรใช้ผ้าหรือฟองน้ำพันรอบๆ หรือใช้ถุงมือจับจะช่วยลดแรงกดหรือเสียดสีลง
การรักษา
ในระยะแรกอาจให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์เพื่อบรรเทาปวดและลดการอักเสบ การทำกายภาพบำบัด หรือฉีดยาสตีรอยด์เข้าไปที่เส้นเอ็นที่อักเสบ ซึ่งจะได้ผลดีเมื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการใหม่ๆ ถ้าไม่ได้ผลอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
การป้องกัน
-หลีกเลี่ยงการใช้มือทำงานที่มีลักษณะทำให้เกิดแรงกดหรือเสียดสีกับเส้นเอ็นแบบซ้ำซาก
-การหิ้วของหนักๆ เช่น ถุงหนักๆ ถังแก๊ส ถังน้ำ กระเป๋า (ควรใช้รถเข็นลาก หรือใส่ถุงมือ)
-การซักผ้า บิดผ้า (ควรใช้เครื่องซักผ้าแทน)
-เวลากำหรือจับอุปกรณ์ต่างๆ ควรใส่ถุงมือลดแรงกดหรือเสียดสี เช่น ใส่ถุงมือเวลาจับไม้ตีกอล์ฟ กรรไกรตัดกิ่งไม้ มีดตัดต้นไม้หรือดายหญ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลกรุงเทพ


