ลุ้น! กันอยู่พักใหญ่กับคอกีฬาเพราะกลัวว่าจะเกิด “จอดำ” กับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-12 ส.ค.55
ล่าสุด วานนี้(25 ก.ค.) พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท) กล่าวว่า ประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์ แครี่ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาวันที่ 24 ก.ค.55 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.55 เป็นต้นไป ซึ่งประกาศดังกล่าวเป็นการรับรองสิทธิ์พื้นฐานในการเข้าถึงของประชาชน
“กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการทั่วไปต้องให้บริการโดยทั่วถึงกับประชาชนในประเทศไทย โดยส่งออกสัญญาณใน 2 ลักษณะ คือ ระบบภาคพื้นดินทั่วไป และระบบดาวเทียม โดยจะต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเนื้อหาใดๆ ส่วนกิจการที่บอกรับสมาชิกต้องทำให้สมาชิกของตนสามารถรับชมรายการจากฟรีทีวีได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งประกาศดังกล่าวนี้จะเป็นการรับรองให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการที่เป็นฟรีทีวีได้” พ.อ.ดร.นที กล่าว
พ.อ.ดร.นที กล่าวต่อว่า ประกาศฉบับนี้ไม่ได้ประกาศใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการรับรองว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ซึ่งทางทีวีพูลหรือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจได้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดมา ทำให้ฟรีทีวีทุกช่องรับชมรายการได้ ดังนั้นประชาชนจะได้รับชมรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ทุกการแข่งขัน
ต่อข้อถามถึงกรณีการเกิดจอดำ หรือประชาชนที่ใช้กล่องรับสัญญาณหรือจานดาวเทียมอาจไม่สามารถรับชมรายการได้นั้น พ.อ.ดร.นที กล่าวว่า คาดว่ายังมีประชาชนบางรายที่ไม่สามารถรับชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก2012 ได้ เนื่องจากใช้กล่องรับสัญญาณรุ่นเก่าซึ่งไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณได้ แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะมีวิธีดำเนินการเพื่อให้สมาชิกของตนสามารถรับชมรายการได้ เช่น ทำโปรโมชั่นเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณให้ ซึ่งเป็นวิธีเพิ่มฐานลูกค้าอย่างหนึ่ง
ส่วนความกังวลใจของฟรีทีวีที่เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์ พ.อ.ดร.นที กล่าวยืนยันว่า กรณีรี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของลิขสิทธิ์เพราะเป็นการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงในเรื่องของสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับ ขณะที่ความกังวลใจของเคเบิลทีวี (ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก) ที่เกรงว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับฟรีทีวีหรือไม่ ให้มองว่าเป็นเรื่องของการนำพาสัญญาณไปถึงผู้รับ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ที่ให้บริการแก่ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก หรือผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง ซึ่งมีหน้าที่ต้องให้สมาชิกได้รับบริการโทรทัศน์ที่เป็นรายการทั่วไปได้โดยตรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ ดัดแปลง ผังรายการ หรือเนื้อหารายการ
สำหรับประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์ แครี่ (Must Carry) ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 24 ก.ค.2555 เล่ม 129 ตอนพิเศษ 118 ง ซึ่งมีสาระสำคัญคือการกำหนดให้ “ฟรีทีวี” 6 ช่อง ในปัจจุบันต้องแพร่ภาพได้ในทุกช่องทาง หรือ แพลตฟอร์มการรับชมทีวีของครัวเรือนไทยในปัจจุบัน คือทีวีภาคพื้นดิน เคเบิลทีวี และจานรับสัญญาณดาวเทียม โดยห้ามฟรีทีวี อยู่ในสภาพ “จอดำ” เนื่องจากเป็นสื่อสาธารณะที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิได้รับชมตามสิทธิที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ จากปัญหาการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งเกิดปัญหาจอดำ ในช่องรายการของสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีที่ออกอากาศผ่านช่องทรูวิชั่นส์ตลอดรายการแข่งขัน และทำให้กลุ่มผู้บริโภคอย่างน้อย 2 ล้านคนไม่สามารถรับชมได้ จนนำมาสู่การถกเถียงถึงประเด็นเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ กับ สิทธิของผู้บริโภคที่ควรมีโอกาสรับชมได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน
ดังนั้น กสทช.จึงร่วมกับผู้ประกอบกิจการ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ และฝ่ายเกี่ยวข้อง จัดเวทีเสวนาเพื่อสะท้อนปัญหาร่วมกันหลายครั้ง จนนำมาสู่การออกประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์ แครี่ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 ก.ค.55 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 25 ก.ค.55เป็นต้นไป
phetchannews 