วันนี้( 22 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช )พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช .มีมติเห็นชอบเรื่องการปรับเพดานถือครองคลื่นความถี่ ตามร่างประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ โดยได้สรุปเพดานการปรับถือครองคลื่นความถี่ 15 เมกะเฮิร์ตซ จากเดิมที่กำหนดไว้ 20 เมกะเฮิร์ตซ และราคาตั้งต้นประมูล 4,500 ล้านบาท / 5 เมกะเฮิร์ตซ แบ่งเป็น 9 สล๊อต
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า การประมูลแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก โอปอเรเตอร์จะเคาะประมูลให้ได้ราคาสูงสุด โดยเพิ่มขึ้นทีละ 5 % และช่วงที่ 2 ผู้ประมูลรายใดที่ชนะราคาสูงสุดมีสิทธิ์ในการเลือกช่วงย่านความถี่ก่อนรายอื่น
ต่อข้อซักถามที่การประมูลครั้งนี้เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนหรือไม่ เนื่องจากเอกชนทั้ง 3 ราย สามารถประมูลคลื่นความถี่จำนวน 15 เมกะเฮิร์ตซ ได้เท่ากัน พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ขอปฏิเสธข่าวว่า กสทช เป็นผู้จัดฮั้วประมูล 3 จี ซึ่งการเป็น กสทช. เป็นผู้ที่มีอำนาจแต่ก็ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งการตัดสินใจเป็นการดำเนินงานทางสายกลางมากที่สุด เพราะในปี 2563 จะหมดสัญญาสัมปทานจะทำให้ไม่มีผู้ประกอบการโทรคมนาคมในตลาด ซึ่งการพิจารณานำเอาความเห็นสุดโต่งมาใช้ก็จะเกิดความเสี่ยงเช่นกัน และประเทศไทยไม่ได้อยู่ในระดับราคาที่ถูกที่สุด มีประเทศที่กำหนดราคาเริ่มต้นต่ำกว่าประเทศไทยอีก
สำหรับราคาตั้งต้นเฉลี่ยต่อเมกะเฮิร์ตซที่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท ได้แก่ จอร์เจีย อินเดีย เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ ไนจีเรีย สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ เป็นต้น (ที่มาจาก ร่างรายงานการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ และมูลค่าขั้นต่ำของการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ (2012) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.เปิดเผย การลงมติเรื่อง3จีที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 8 ท่าน และไม่เห็นด้วย 2 ท่านคือ น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และไม่สามารถออกเสียง 1 ท่าน คือ พ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ เพราะมีส่วนได้ส่วนเสียเนื่องจากเป็นประธานการจัดประมูล3จีในปี 2553 ที่ศาลมีคำสั่งล้มประมูล โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานกสทช.จะนำร่างประกาศไปลงราชกิจจานุเบกษาได้ภายในสัปดาห์หน้าและเตรียมออกประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจ และจำลองรูปแบบการประมูล 3 จี แทนการออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
สำหรับการจัดประมูล3จี สำนักงาน กสทช.จ้างบริษัท พาวเวอร์ อ๊อกชั่น เป็นผู้จัดประมูลโดยได้ต่อรองราคาเหลือ 14.1 ล้านบาท จากที่กสทช.ตั้งราคากลางไว้ 15 ล้านบาท โดยในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเซ็นสัญญา เบื้องต้นพิจารณาใช้สำนักงานกสทช.เป็นที่จัดประมูล ซึ่งคาดว่าจะจัดประมูลได้ระหว่างวันที่ 15-20 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่บอร์ดกสทช.กำลังแถลงข่าว น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ทวิตข้อความทางทวิตเตอร์เพื่อแสดงความคิดเห็นหลังประชุมบอร์ดกสทช.เพื่อลงมติร่างประกาศ 3จี ว่า ประชุมช่วงเช้าเสร็จแล้ว ได้ทำหน้าที่อภิปรายเหตุผลในการขอให้บอร์ด กสทช.ปรับปรุงสูตรการประมูล 3จีแล้วแต่โหวตแพ้ไป บอร์ดเสียงข้างมากผ่านร่างประกาศฯสูตรการประมูล 15X3=45 ด้วยราคาตั้งต้น 4,500 ล้านบาท ถ้ามีผู้ประมูลเพียง3รายเดิมจริง คงพอเดาผลได้ ย้ำอีกครั้ง จุดยืนคือสนับสนุนให้เกิดการประมูลคลื่น2.1 เมกะเฮิร์ตซ แต่เห็นต่างเรื่องวิธีการประมูล ตอนนี้บอร์ดเสียงข้างมากชนะแล้ว รอดูผลประมูลไป ข่าวดีจะได้ใช้คลื่น2.1ในปีหน้า ข่าวร้ายการแข่งขันที่แท้จริง เกิดได้ยากจริงๆในประเทศไทย แม้จะมีองค์กรกำกับดูแลแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
phetchannews 