ข่าว

“กสทช.” กร้าว “กฎใหม่เน็ตไอทียู” ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!

วันนี้ (14 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กสทช. ว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช.มีวาระเกี่ยวกับ “การพิจารณากำหนดนโยบายต่อร่างข้อบังคับของไอทียู” ซึ่งที่ประชุมกสทช.มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) หรือบอร์ด กทค. ไปพิจารณาว่าควรที่จะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร โดยให้ดำเนินงานเป็นเรื่องด่วนเพื่อให้ทันกับกระบวนการต่อรองสนธิสัญญาในระหว่างวันที่ 3-14 ธ.ค. 2555 ในการประชุมไอทียู ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระการประชุมเรื่อง “การพิจารณากำหนดนโยบายต่อร่างข้อบังคับของไอทียู” นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เป็นผู้เสนอเรื่องนี้เข้าเป็นวาระการประชุมในบอร์ดกสทช. เพื่อขออนุมัติท่าทีของกสทช. เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ที่ต้องร่วมให้ข้อมูลและร่วมดำเนินการ กับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) โดยกระทรวงไอซีทีจะเป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาเพราะเป็นหน่วยงานบริหารที่เป็นตัวแทนของประเทศในฐานะสมาชิกไอทียู ส่วน กสทช. จะทำหน้าที่เป็นทีมร่วมในการเจรจาต่อรอง

แหล่งข่าวกล่าวว่า บรรยากาศในห้องประชุมบอร์ด กสทช. มีกสทช. 2 ท่านกล่าวว่า เรื่อง “การพิจารณากำหนดนโยบายต่อร่างข้อบังคับของไอทียู” ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่กสทช.ต้องแสดงท่าทีสนับสนุน เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลสามารถดำเนินงานได้ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

ด้านนพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า จะทำหนังสือขอสงวนความเห็นในเรื่องนี้เนื่องจากเห็นสอดคล้องกับ กระทรวงไอซีที ว่าจะไม่ยอมรับและไม่สนับสนุนให้เพิ่มคำว่า “ ไอซีที ” เข้าไปใน ไอทีอาร์ โดยก่อนหน้านี้คำนิยามของไอทียูเป็นเรื่องของโทรคมนาคม แต่สนธิสัญญาที่แก้ไขจะนำเอาคำว่า ไอซีที และอินเทอร์เน็ต เข้ามารวมไว้ด้วย และเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของบอร์ด กสทช. ที่ต้องพิจารณา

นพ.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกฎอินเทอร์เน็ตใหม่ของไอทียู กรณีที่ทุกคนกลัวคือ “จ่ายเงินทุกครั้งที่คลิก” (pay per click) โดยส่วนตัวมองว่า อาจไม่ใช้การคิดเงินค่าบริการจากทุกครั้งที่คลิก แต่อาจเป็นการเฉลี่ยค่าใช้งานในการเหมาจ่าย ซึ่งจะทำให้ค่าบริการเพิ่มขึ้นแต่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว และในอนาคตอาจมีการคิดค่าบริการต่างกัน ระหว่างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าดูข้อมูลในประเทศและต่างประเทศ หรืออาจอธิบายได้ว่า “ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินตามข้อมูลที่ใช้”

ทั้งนี้ เรื่องสนธิสัญญาการบริหารเครือข่ายโทรคมนาคมของโลก หรือ อินเทอร์เน็ต เทเลคอมมูนิเคชั่น เร็กกูเรชั่น หรือ ไอทีอาร์ (Internet Telecommunication Regulation : ITR) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ได้มีการตกลงให้แก้ไขเนื้อหาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ.2553) โดยปลายเดือน ธ.ค.2555 ประเทศสมาชิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ราว 180 ประเทศจะมีการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว ระหว่างการประชุมด้านโทรคมนาคมซึ่งไอทียูจัดขึ้นที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สำหรับเนื้อหาของสนธิสัญญาที่แก้ไขจาก 15 ข้อ มี 6 ข้อที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต 2. การใช้ทรัพยากรเลขหมายในทางที่ผิด 3. การกำหนดนิยามเรื่องบริการโทรคมนาคม  4. ระบุตัวตนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและประวัติการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต  5. คุณภาพบริการ และ 6. ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย

หนึ่งในเรื่องที่แก้ไขเนื้อหาและส่งผลกระทบกับคนใช้อินเทอร์เน็ตทุกคน คือการใช้อินเทอร์เน็ต โพรโตคอล แอดเดรส (ไอพี แอดเดรส) ซึ่งระบุว่าประเทศสมาชิกต้องหาวิธีใดวิธีหนึ่งในการคิดค่าบริการจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เชื่อมต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยไอพี แอดเดรส ซึ่งเป็นความพยายามที่จะจัดเก็บค่าบริการจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกครั้ง และเก็บเงินทุกครั้งที่เข้าสู่ข้อมูลต่าง ๆ โดยเก็บเงินทั้งจากผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เป็นการแก้เนื้อหาโดยอิงรูปแบบการเก็บค่าบริการจากรูปแบบการคิดค่าบริการของโทรศัพท์มือถือ

ใส่ความเห็น