พุธ@สุดพิเศษ เกาะติดข้อมูลเกี่ยวกับสนธิสัญญาการบริหารเครือข่ายโทรคมนาคมของโลก หรือ อินเทอร์เน็ต เทเลคอมมูนิเคชั่น เร็กกูเรชั่น หรือ ไอทีอาร์ (Internet Telecommunication Regulation : ITR) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ได้มีการตกลงให้แก้ไขเนื้อหาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 (พ.ศ. 2553) โดยปลายเดือน ธ.ค. 2555 ประเทศสมาชิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ราว 180 ประเทศจะมีการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าว ระหว่างการประชุมด้านโทรคมนาคมซึ่งไอทียูจัดขึ้นที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับเนื้อหาของสนธิสัญญาที่แก้ไขจาก 15 ข้อ มี 6 ข้อที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต 2. การใช้ทรัพยากรเลขหมายในทางที่ผิด 3. การกำหนดนิยามเรื่องบริการโทรคมนาคม 4. ระบุตัวตนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและประวัติการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต 5. คุณภาพบริการ และ 6. ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย
หนึ่งในเรื่องที่แก้ไขเนื้อหาและส่งผลกระทบกับคนใช้อินเทอร์เน็ตทุกคน คือการใช้อินเทอร์เน็ต โพรโตคอล แอดเดรส (ไอพี แอดเดรส) ซึ่งระบุว่าประเทศสมาชิกต้องหาวิธีใดวิธีหนึ่งในการคิดค่าบริการจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เชื่อมต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยไอพี แอดเดรส ซึ่งเป็นความพยายามที่จะจัดเก็บค่าบริการจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกครั้ง และเก็บเงินทุกครั้งที่เข้าสู่ข้อมูลต่าง ๆ โดยเก็บเงินทั้งจากผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เป็นการแก้เนื้อหาโดยอิงรูปแบบการเก็บค่าบริการจากรูปแบบการคิดค่าบริการของโทรศัพท์มือถือ
โดยระหว่างวันที่ 3-14 ธ.ค. 2555 เป็นเวลาที่อยู่ในกระบวนการต่อรองสนธิสัญญา หากมี 25% ของประเทศที่เป็นสมาชิกไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาของสนธิสัญญา ต้องนำสนธิสัญญาที่แก้ไขมาพิจารณาใหม่ แต่ถ้าประเทศสมาชิกเห็นด้วย 100% ก็จะมีการลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2555 ดังนั้นประเทศไทยต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้ และหากประเทศไทยไม่ลงนามในสนธิสัญญาก็จะถูกบล็อกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากอีก 179 ประเทศที่เป็นสมาชิกไอทียู
ความคืบหน้าล่าสุด เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า …ประเทศไทยไม่เอากฎใหม่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตนี้อย่างแน่นอน!
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงาน กสทช. เห็นสอดคล้องกับ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ว่าไม่ยอมรับและไม่สนับสนุนให้เพิ่มคำว่า “ไอซีที” เข้าไปใน ไอทีอาร์ โดยก่อนหน้านี้คำนิยามของไอทียูเป็นเรื่องของโทรคมนาคม แต่สนธิสัญญาที่แก้ไขจะนำเอาคำว่า ไอซีที และอินเทอร์เน็ต เข้ามารวมไว้ด้วย และในวันที่ 14 พ.ย. 55 จะนำเรื่อง “การพิจารณากำหนดนโยบายต่อร่างข้อบังคับของไอทียู” เข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช. ให้พิจารณาอนุมัติเพื่อสนับสนุนให้ดำเนินการ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ที่ต้องร่วมให้ข้อมูลและร่วมดำเนินการ จึงต้องนำเข้าที่ประชุมใหญ่เพื่อขออนุมัติ
นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า กรณีที่ทุกคนกลัวคือ “จ่ายเงินทุกครั้งที่คลิก” (pay per click) โดยส่วนตัวมองว่า อาจไม่ใช่การคิดเงินค่าบริการจากทุกครั้งที่คลิก แต่อาจเป็นการเฉลี่ยค่าใช้งานในการเหมาจ่าย ซึ่งจะทำให้ค่าบริการเพิ่มขึ้นแต่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว และในอนาคตอาจมีการคิดค่าบริการต่างกัน ระหว่างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าดูข้อมูลในประเทศและต่างประเทศ หรืออาจอธิบายได้ว่า “ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินตามข้อมูลที่ใช้”
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จุดยืนของประเทศไทย ต่อกฎอินเทอร์เน็ตใหม่ของไอทียู คือ ไม่ยอมรับและไม่สนับสนุนให้เพิ่มคำว่า “ ไอซีที” เข้าไปใน ไอทีอาร์!!!.
น้ำเพชร จันทา
@phetchan
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

