วัด เที่ยววัดกัน

“อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี”

สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี หรือ "ย่าโม" วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชทุกคน

เป็นอนุสาวรีย์ที่ยกย่องความดีของวีรสตรีสามัญชนคนแรกของประเทศ อนุสาวรีย์นี้หล่อด้วยทองแดงรมดำสูง 185 เซนติเมตร หนัก 325 กิโลกรัม ประดิษฐานอยู่บนฐานไพที สี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองสูง 250 เซนติเมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทานในท่ายืนมือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ภายในบรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโมของชาวโคราช

“ประตูชุมพล” ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯให้สร้างเมืองนครราชสีมา เป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ พ.ศ. 2199 อันเป็นที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา และสร้างประตูเมืองอย่างแข็งแรง โดยมีช่างชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นมิตรกับกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้นเป็นผู้ออกแบบผังเมือง เมืองนครราชสีมาในขณะนั้นมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 1,000 x 1,700 เมตร เดิมมีประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตู ได้แก่ ประตูพลแสนด้านทิศเหนือ ประตูพลล้านด้านทิศตะวันออก ประตูไชยณรงค์ด้านทิศใต้ และประตูชุมพลด้านทิศตะวันตก ปัจจุบันเหลือเพียงประตูชุมพลเท่านั้นที่เป็นประตูเมืองเก่าแก่ ส่วนอีก 3 ประตูที่เหลือได้มีการสร้างขึ้นใหม่ ลักษณะประตูชุมพลเป็นประตูก่อด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐ ฉาบด้วยปูน ส่วนด้านบนเป็นหอรบสร้างด้วยไม้แก่น หลังคามุงด้วยกระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้า กระจังและนาคสะดุ้ง กำแพงต่อจากประตูทั้งสองข้าง ก่อด้วยอิฐ ส่วนบนสุดทำเป็นรูปเสมา ชื่อประตูชุมพลนั้นมีความหมายถึงที่ชุมนุมพล เมื่อครั้งสมัยอยุธยาส่วนใหญ่ประตู ณ ที่ตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พล และการออกศึก เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นลักษณะเปิดกว้างไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่นๆ ซึ่งในอดีตมีความเชื่อว่าเมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้ว จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากการออกรบและนำชัยชนะเข้าสู่บ้านเมือง และยังมีความเชื่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่าหากผู้ใดได้ลอดประตูนี้ 1ครั้งจะได้กลับมาโคราชอีกครั้ง หากลอด 2ครั้ง จะได้มาทำงานหรือได้มาอยู่ที่โคราช แต่ถ้าลอดถึง 3 ครั้ง จะได้คู่ครองเป็นคนโคราช และหากท่านผู้ใดมาลอดประตูนี้กับคู่รักเชื่อว่าจะทำให้ความรักของคู่นั้นสมหวังและมั่นคงตลอดกาล

ใส่ความเห็น