ประวัติ “วัดสายไหม” คำว่า “สายไหม” ปัจจุบันเป็นชื่อของแขวง ๆ หนึ่งอยู่ในเขตสายไหม กรุงเทพฯ อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดสายไหม ที่มีคลองหกวาเป็นเขตแนวกั้นระหว่าง จ.ปทุมธานี กับ กรุงเทพมหานคร แต่คำว่า “สายไหม” เท่าที่ได้ฟังคนเก่าเล่ามา…
ในอดีต คือก่อนปี พ.ศ.2435 บริเวณนี้เป็นทุ่งกว้างใหญ่มีชื่อว่า “ทุ่งหลวง” พื้นที่เป็นทุ่งหญ้า ป่ากก ป่าปรือ มีหนองน้ำกว้างใหญ่ ในฤดูฝนมีน้ำท่วมอยู่เต็มทุ่งมีลำธารไหลผ่านทุ่งนี้ไปบรรจบกับคลองบางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในฤดูน้ำชาวบ้านบางตลาดใช้ลำธารสายนี้เป็นทางเดินเรือนำสินค้าไปขายจนถึง จ.นครนายก ดังนั้นในฤดูแล้งน้ำจะแห้ง พื้นที่ส่วนในเป็นพื้นที่ดอนสูงก็เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เสือ ช้าง และนกนานาชนิด ส่วนในพื้นที่ลุ่มก็เป็นหนองน้ำ เป็นบึงที่กว้างใหญ่ เป็นที่รวมของพันธุ์ปลานานาชนิดจนถึงจระเข้ จึงนับได้ว่ามีปลาชุกชุมมาก (ปัจจุบันคือบริเวณที่เป็นหมู่บ้านสายไหม ถ.ลำลูกกา) ชาวบ้านคลองบางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จะพากันออกเดินทางแต่เช้าตรู่พร้อมด้วยเครื่องมือจับปลา มุ่งหน้ามายังทุ่งนี้เพื่อจับปลาเอาไปสะสมไว้เป็นอาหาร ครั้นเย็นลงก็พากันกลับบ้านพร้อมกับปลาเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีข่าวกระจายออกไป เมื่อใครรู้ข่าวก็อยากจะมาบ้าง จึงเกิดคำถามขึ้นว่าไปถึงที่หาปลานั้นน่ะ “สายไหม” จากคำถามที่ว่า สายไหม ๆ ๆ นานวันเข้าจึงกลายเป็นชื่อของทุ่งนี้ขึ้นมาใหม่ว่า “สายไหม”
ต่อมามีผู้อพยพจากคลองบางตลาดมาปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่บริเวณทุ่งนี้เป็นจำนวนหลายครอบครัว จึงเกิดเป็นหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ ชื่อวัด ชื่อตำบล ว่า “สายไหม” จวบจนปัจจุบัน
“วัดสายไหม” ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 37 หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130 (ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต)
ข้อมูล : ป้ายประวัติหน้าโบสถ์วัดสายไหม


















