ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านจึงมีชิวิตความเป็นอยู่เหมือนเด็กท้องไร่ท้องนาทั่วไป โดยช่วยเหลืองานบ้านตามประสาเด็ก ท่านอายุได้ประมาณ 13 ปี บิดาได้นำไปฝากท่านอาจารย์อิ่ม อินทสโร เจ้าอาวาสวัดข้างหนองกิ่งไม้(วัดกิ่งแก้ว) เพื่อเรียนหนังสือ ด้วยการเล่าเรียนสมัยก่อน วัดเป็นสถานที่สำคัญ ให้ความรู้และอบรม บ่มนิสัยโดยพระภิกษุจะทำหน้าที่ดังกล่าว จนอายุ 15 ปี มีความรู้พอจะอ่านออกเขียนได้ จึงกลับมาช่วยงานบ้าน อายุได้ 18 ปี ถูกเกณฑ์ทหารเข้าเป็นทหารเรือ กองประจำการ รับราชการทหารเรืออยู่ 2 ปี ครบกำหนดปลดประจำการได้กลับมาช่วยงานบ้านดังเดิม
ปี 2433 อายุ 21 ปีบริบรูณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ตามประเพณี ณ พัทสีมา วัดกิ่งแก้ว โดยมีหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา เป็นพระอุปัชฌา พระอาจารย์อิ่ม อินทสโร วัดกิ่งแก้ว เป็นพระกรรมวาจา ได้ฉายาว่า ปัญญาธโร หลังการอุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่วัดกิ่งแก้ว อยู่กับพระอาจารย์อิ่ม ท่านเอาใจใส่ในการศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนบาลี และอักขระขอม ด้วยความอุตสาหะของท่านทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้แตกฉานในเวลาอันรวดเร็ว เป็นที่รักใคร่ของครูอาจารย์ผู้สอน
ต่อมาท่านก็เริ่มฝึกฝนการวิปัสนากัมมัฏฐาน และรุดหน้าไปด้วยดีจนเป็นที่พอใจ วางใจของท่านอาจารย์อิ่ม มอบหมายงานต่าง ๆ ภายในวัดให้ท่านดูแลแทน ปี 2442 ท่านอาจารย์อิ่ม อินทสโร ได้ถึงแก่การมรณะภาพ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ทำหนังสือร้องขอต่อศาสนา ให้แต่งตั้งหลวงปู่เผือก เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา และได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเป็นการณ์ใหญ่
ในระยะแรก ๆ มีชาวบ้านมาช่วยงานไม่มากนัก ต่อมาเพิ่มพูนทวีคูณมีจำนวมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด ก็สำเร็จโดยง่าย ญาติโยมหลั่งใหลมาจากทั่วสารทิศ มาช่วยงาน ด้วยความรัก ความศรัทธาที่มีต่อท่าน ถาวรวัตถุต่างๆ ที่ท่านได้สร้างไว้นั้น มีอยู่อย่างมากมาย เช่น การสร้างอุโบสถ พระพุทธชินราชจำลอง ขนาดหน้าตัก 5 ศอก ซึ่งประดิษฐานในอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ มณฑป โรงเรียนพระปริยัติธรรม เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนของกุลบุตร กุลธิดาในย่านนั้น
ปี 2487 หลวงปู่เผือกเริ่มมีอาการอาพาธ เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ บางครั้งถึงกับปัสาวะไม่ออก ยังความทุกข์ทรมานแก่ท่านเป็นอย่างมาก ลูกศิษย์ต่างพยายามเยียวยารักษาจนสุดความสามารถ แต่อาการไม่ทุเลาลง จึงนำส่งเข้าการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสงฆ์ แพทย์ได้ตรวจและพบว่า ท่านเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ และได้ทำการผ่าตัด จนอาการทุเลาลงและหายเป็นปกติ ใช้เวลารักษาตัวอยู่ประมาณ 7 เดือนเศษ ภายหลังเมื่อท่านกลับมาอยู่วัด ท่านยังคงประกอบกิจต่างๆ อยู่เช่นเดิม ใครเดือดร้อนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อมาหาท่านท่านก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงไร ท่านไม่เคยปริปากบอกใคร ประมาณ 4-5 ปี หลังจากการผ่าตัด อาการอาพาธเริ่มปรากฏ และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2501 เวลา 25.45 น. หลวงปู่เผือกถึงแก่กาลมรณภาพ รวมสิริอายุ 89 ปี 7 เดือน 17วัน 69 พรรษา
ที่มา : https://www.facebook.com/phuththakhundaensyam999/photos/a.550355708453938/560870244069151










