“วัดจุฬามณี” สมุทรสงคราม เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดแม่เจ้าทิพย์” สร้างตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2172–2190 ตามประวัติว่าท้าวแก้วผลึก (น้อย) นายตลาดบางช้าง ต้นวงศ์ราชนิกูลบางช้างเป็นผู้สร้างขึ้น อุโบสถวัดจุฬามณีมีขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ปูพื้นด้วยหินหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ภายประดิษฐานพระประธานบนฐานสูง บานหน้าต่างด้านนอกลงรักฝังมุกเป็นภาพตราพระราชลัญจกร ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลปัจจุบัน พระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนภาพเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นต่าง ๆ นอกจากนี้บริเวณฝาผนังโดยรอบพระอุโบสถ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและนิทานชาดกที่ประณีต ฝีมือของจิตรกรหญิงนิตยา ศักดิ์เจริญ ซึ่งใช้เวลาในการวาดนานถึง 6 ปี และกราบสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของ หลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาส
“ท้าวเวสสุวรรณ” (ท้าวเวสสุวัน) เทพยักษ์แห่ง “วัดจุฬามณี”
ตามตำนานการสร้าง ท้าวเวสสุวรรณ ของวัดจุฬามณีนั้นแตกต่างจากที่อื่น เนื่องด้วยพระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสปัจจุบันได้ฝันเห็น “ท้าวเวสสุวรรณ” ในนิมิตองค์ท่านได้พาพระอาจารย์อิฏฐ์ไปเที่ยวชมยมโลกจนทั่ว พระอาจารย์อิฏฐ์จึงตั้งจิตอธิษฐานเป็นสัจจะวาจาไว้ว่า ถ้ากลับไปในโลกมนุษย์ครั้งนี้จะทำการตั้งรูปปั้น “ท้าวเวสสุวรรณ” ไว้กลางวัดเสมือนเป็นการขอบคุณและการให้ความเคารพแก่ท่าน ในนิมิตพระอาจารย์อิฏฐ์ได้บอกความประสงค์นี้แก่ท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” ไป ท่านจึงบอกกลับมาว่า หากจะปั้นจะต้องไปตามช่างปั้นท่านหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรีต้องให้ช่างผู้นี้เป็นผู้ปั้นเท่านั้น นี่คือตำนานที่มา “ท้าวเวสสุวรรณ” แห่ง “วัดจุฬามณี”
“วัดจุฬามณี” ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) กิโลเมตร 34-35 ตำบลบางช้าง เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก










