อย่ามัวอิดออดรอเวลาที่จะรู้จัก IPv6 หรือ Internet Protocol Version 6 อีกเลย
เพราะวันที่ 6 มิ.ย.2555 หรือพูดให้ดูอินเตอร์อีกนิด วันที่ 6 เดือน 6 ปี 2012 เป็นวัน WORLD IPv6 LAUNCH วันที่ทั่วโลกจะเปลี่ยนผ่านการใช้งานจาก IPv4 เข้าสู่ IPv6 อย่างเต็มตัว
IPv 4 – IPv6 คืออะไร? มาทำความรู้จักกัน
ไอพีวี 4 (IPv 4) หรือ Internet Protocol Version 4 เป็นไอพีแอดเดรส เวอร์ชั่น 4 ที่ใช้ระบุตัวอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมานานถึง 30 ปีแล้ว มีจำนวนเลขหมายไอพีแอดเดรสประมาณ 4.29 พันล้านเลขหมาย ล่าสุด รศ.ดร.สินชัย กมลภิวงศ์ นายกสมาคม IPv6 ประเทศไทย กล่าวระหว่างบรรยายเรื่อง “IPv6 Readiness ท่านพร้อมหรือยัง?” ในงานสัมมนาเรื่อง “พลิกโฉมใหม่สู่การบูรณาการโครงสร้างเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐ(GIN 2.0)” ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.55 ว่า มีการคาดการณ์ว่าในปี 2012 จะมีการใช้งานเลขหมายไอพีแอดเดรสแล้ว 5 พันล้านเลขหมาย นั่นหมายความว่าเกินจำนวนเลขหมายไอพีแอดเดรสที่ IPv4 มีอยู่
สำหรับระยะเวลาการหมดของไอพีแอดเดรส เวอร์ชั่น 4 จะเริ่มทยอยหมดตั้งแต่ มี.ค. 2554 ในแถบประเทศอเมริกา ส่วนประเทศอื่น ๆ จะทยอยหมดอีก 10-12 เดือน หรือหมดปลายปี ค.ศ. 2011 หรือต้นปี ค.ศ. 2012
เป็นช่วงเวลาพอดีของการเปลี่ยนผ่านการใช้งานเข้าสู่ IPv6 หรือ Internet Protocol Version 6 ซึ่งเป็นไอพี แอดเดรส เวอร์ชั่น 6 ที่พัฒนาให้มีจำนวนเลขหมายมากถึง 340 ล้านล้านล้านล้านเลขหมาย หรือ 2 ยกกำลัง 128 ซึ่งเพียงพอที่จะให้ประชาคมโลกใช้งานไอพีแอดเดรสได้ถึง 50 ปี ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เวอร์ชั่นใหม่ต่อไป
หากนึกภาพจำนวนเลขหมายที่มีปริมาณมากในระดับล้านล้านล้านล้านไม่ออก รศ.ดร.สินชัย ได้เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นว่า ถ้านำปริมาณของเลขหมาย IPv4 มาเรียงต่อกันจะยาวเท่ากับ 1 นิ้ว แต่ถ้านำปริมาณเลขหมายของIPv6 มาเรียงต่อกันจะยาวจากโลกถึงดวงจันทร์
ทำไมต้องเปลี่ยนไปสู่ IPv6
-เพราะหมายเลข IPv4 กำลังจะหมดลง จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายการใช้งานไปสู่ IPv6 ที่มีจำนวนเลขหมายหมายกว่า
-รองรับการเติบโตของอินเทอร์เน็ต ทั้งบรอดแบรนด์, โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต(3G-4G), คลาวด์ คอมพิวติ้ง, GRID และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
-การเปลี่ยนผ่านนี้มีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ IPv6
ประเทศไทยเตรียมพร้อมเข้าสู่ IPv6 อย่างไร?
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 54 ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกกำหนดให้เป็นวันทดสอบการใช้ IPv6 พร้อมกันทั่วโลก หรือเรียกว่า World IPv6 Day โดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ของประเทศต่างๆ จะร่วมทำการทดสอบพร้อมๆ กัน
การทดสอบเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น ของวันที่ 8 มิ.ย.ถึงเวลา 06.59 น.ของวันที่ 9 มิ.ย. รวม 24 ชั่วโมง หน่วยงานที่เข้าร่วมทดสอบครั้งนี้ ได้แก่ กระทรวงไอซีที บมจ.ทีโอที บมจ.กสท. ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เครือข่ายมหาวิทยาลัยภาครัฐ(ยูนิเน็ต) รวมถึงผู้ให้บริการเว็บไซต์ชื่อดัง เช่น ยาฮู กูเกิล และเฟซบุ๊ค
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ กูเกิล เคยมีการทดสอบไปบ้างแล้ว พบว่ามีปัญหาในการใช้เพียง 0.05% แต่ส่งกระทบต่อผู้ใช้งานจำนวน 3 ล้านราย เป็นเหตุผลว่าทำไมกูเกิลยังไม่เปลี่ยนไปใช้งาน IPv6 ในทันที ขณะที่รายอื่นๆ ยังไม่มีการรายงานผลออกมา
สำหรับประเทศไทยมีการประเมินไว้ว่าต้องใช้เวลาเตรียมพร้อม 3ปี โดยเบื้องต้นต้องฝึกอบรมบุคลากรในหน่วยงานไอทีภาครัฐก่อน เพื่อให้มีความรู้เรื่องIPv6 อย่างน้อย 3,000 คน ส่วนด้านซอฟต์แวร์สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐของไทยพร้อมเข้าสู่การใช้งานได้จริงในปี 2558 ทันกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)
จากสถิติการใช้งานIPv6 ทั่วโลกมีอยู่ไม่ถึง 1% อันดับประเทศที่ตื่นตัวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา 2.รัสเซีย 3.เยอรมันนี 4.อินโดนีเซีย 5.ออสเตรเลีย
E-Gov ของไทยพร้อมหรือยัง?
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.55 สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. หน่วยงานในกำกับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แถลงข่าวปรับเครือข่ายสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network : GIN) จาก GIN เป็น GIN 2.0 โดยนำระบบบริการที่สำคัญของภาครัฐเข้าไปให้บริการ เพื่อทำให้การเชื่อมโยงฐานข้อมูลของแต่ละหน่วยงานมีประสิทธิภาพ
เบื้องต้นได้หารือกับทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักมาใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมทั้งนำมาใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบประวัติบุคคลทั่วไป และนำระบบบริการต่างๆ มาให้บริการบนเครือข่าย GIN 2.0 อาทิ ระบบลงเวลาด้วยลายนิ้วมือ ที่สามารถทำให้ผู้ใช้งานใช้ยูเซอร์เนม และพาสเวิร์ดเดียวเข้าใช้งานได้ทุกแอพพลิเคชั่น และระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ที่ทำให้ระบบ GIN 2.0 มีความทันสมัยที่สุด
ปัจจุบันเครือข่ายหลักของ GIN 2.0 รองรับการใช้งาน IPv6 แล้ว ซึ่งสามารถรองรับการทำงานของหน่วยงานรัฐได้ทั้งหมด โดยหน่วยงานรัฐที่เชื่อมต่อเครือข่าย GIN 2.0 สามารถเข้าสู่ระบบIPv6 ได้อัตโนมัติ โดยรองรับการเปิดใช้งานIPv6 ของทั่วโลกในวันที่ 6 มิ.ย.55 ซึ่งปัจจุบันเครือข่าย GIN เข้าถึงการใช้งานของหน่วยงานรัฐในระดับกรมและจังหวัดรวม 1,038 หน่วยงาน โดยปีงบประมาณ 2555 สรอ.ได้รับงบประมาณในโครงการดังกล่าว 740 ล้านบาท เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงข่ายการใช้งานไอทีของหน่วยงานภาครัฐ
ทำไมไม่มี IPv5
ตามมาตรฐานด้านอินเทอร์เน็ตโพรโตคอล จะมีการระบุส่วนที่เป็นรุ่นของ อินเทอร์เน็ตเวิร์ก เจเนรัล โพรโตคอล (Internetwork general protocol) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น เบอร์ 4 โดยถูกระบุให้เป็นอินเทอร์เน็ตโพรโตคอล ส่วนเวอร์ชั่น เบอร์ 5 ถูกนำไปใช้แล้วและระบุให้เป็น ST Datagram Mode (ST) เกี่ยวข้องกับ Internet Stream Protocol ดังนั้นในการพัฒนาอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหม่ จึงต้องใช้เวอร์ชั่น เบอร์ 6 หรือ IPv 6


IPv6 เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
อยากรู้เรื่องไอทีต้องเข้ามาอ่านเว็บนี้ รับรองความรู้เพียบ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ คะ
มีประโยชน์ค่ะ จะติดตามต่อไปนะค่ะ